Tullio Masoni ได้ผลิตไวน์ที่พิเศษที่สุดในโลกขึ้นมาจากไร่องุ่นบนดาดฟ้าบ้านของเขาเอง โดยใช้ชื่อว่า Via Mari 10 และที่สำคัญเขาไม่ต้องการให้คุณดื่ม
Masoni เป็นเจ้าของกิจการที่ร่ำรวย นักสะสมงานศิลปะ และอดีตนายธนาคารเพื่อการลงทุน เขาได้สร้างสิ่งที่เขาเรียกว่า ‘เป็นไร่องุ่นที่เล็กที่สุดในโลก’ บนยอดวังพาลาซโซสมัยศตวรรษที่ 16 ใจกลางเมือง Reggio Emilia
เมือง Reggio Emilia มีชื่อเสียงในฐานะบ้านเกิดของธงชาติประเทศอิตาลี นอกจากนี้ยังคั่นกลางระหว่างเมือง ปาร์มา( Parma ) และโมเดนา ( Modena ) ที่ทำให้อิตาลีได้มีสินค้าส่งออกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดได้แก่ ซุปเปอร์คาร์ Ferrari และ Lamborghini ยังมีอาหารจานหลักอย่าง ลาซานญ่า, ตอร์เตลลินี, พาร์ม่าแฮม และโปโลเนส
จุดเริ่มต้นของไวน์ Via Mari 10
ไวน์ของ Masoni นั้นไม่ได้มีมากพอต่อความต้องการของใครหลาย ๆ คน เพราะจุดเริ่มต้นของไวน์นี้เกิดจาก Masoni ปลูกองุ่นบนดาดฟ้าของเขาเองที่ถนน Via Mari 10 ซึ่งเป็นทั้งที่ตั้งอาคาร และชื่อของไวน์ มันเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงเพราะในปี 1859 Giuseppe Garibaldi นักปฏิวัติที่ช่วยรวมอิตาลีเป็นหนึ่ง ได้เคยเดินทางมาเยี่ยมชมที่นี่
“พ่อของผมเป็นผู้ผลิตไวน์” Masoni กล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “ตอนนั้นผมได้รับไร่องุ่นในชนบทรอบๆ เมือง Reggio Emilia แต่ผมรู้ว่าการดูแลมันต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ผมก็เลยขายมันออกไป”
“อย่างไรก็ตาม 20 ปีต่อมา ผมรู้สึกเสียใจมากผมเลยสร้างไร่องุ่นขนาดเล็กเป็นของตัวเอง”
ไวน์สุดพิเศษที่เป็นตัวแทนงานศิลป์
ด้วยพื้นที่เพียง 200 ตารางฟุต ( ประมาณ 19 ตารางเมตร ) ของอาคาร Via Mari 10 จึงทำให้มีผลผลิตไวน์แดงเพียง 29 ขวดต่อปี ซึ่ง Masoni ตั้งราคาขวดละ 5,000 ยูโร ( ประมาณ 182,445 บาท ) นับว่าเป็นราคาที่เหมาะสม สำหรับไวน์ที่ไม่ได้ขายทั่วไปตามร้านอาหาร แต่ขายในหอศิลป์ Bonioni Arte ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงตึก
“ไวน์ของผมเป็นหนึ่งในรูปแบบของการแสดงออกทางศิลปะ เป็นสิ่งที่ควรเก็บไว้ในห้องนั่งเล่นของคุณ เพื่อให้คุณสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆ และบอกพวกเขาเกี่ยวกับ ไวน์ของคนบ้าที่มีไร่องุ่นอยู่บนดาดฟ้า”
Masoni เปรียบเทียบไร่องุ่นบนดาดฟ้าของเขากับ ผลงานศิลปะ “Bicycle Wheel” ของ Marcel Duchamp ศิลปินชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นล้อจักรยานจริง ๆ ที่ยึดลงบนเก้าอี้ในสตูดิโอของเขาที่เมืองปารีสในปี 1913 จากนั้น Duchamp จึงแจ้งเกิดจากผลงานศิลปะชิ้นนี้ และเขาตั้งชื่อให้มันว่า Readymades
“ถ้าคุณเห็นล้อจักรยานในห้องนั่งเล่นมากกว่าในร้านซ่อม คุณจะรู้ว่ามันสวยงามแค่ไหน” Masoni กล่าว “สวนองุ่นของผมก็เป็นแบบนั้น ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะกระตุ้นสมอง จุดประกายความคิดใหม่ ๆ ให้ผมได้”
ไวน์ที่ไม่อยากให้ใครดื่ม
Masoni จับความเชื่อมโยงระหว่างไวน์กับศิลปะเข้าด้วยกัน เพราะเถาวัลย์เติบโตบนโครงตาข่ายตามธรรมชาติ พวกมันเลื้อยแข่งกันเพื่อเข้าใกล้แสงแดด และลวดลายที่พวกมันได้ทิ้งไว้บนโครงตาข่ายคืองานศิลปะชั้นดี “องุ่นของผมต้องต่อสู้ดิ้นรนทันทีที่มันเกิด” Masoni กล่าว
ไวน์ Via Mari 10 ยังได้ Giuseppe Camuncoli ศิลปินวาดหนังสือการ์ตูนของ Marvel ซึ่งเกิดใน Reggio Emilia มาวาดฉลากไวน์รุ่นพิเศษของเขาอีกด้วย และนี่เป็นเหตุผลให้เขาสนับสนุนให้ผู้ซื้อไม่เปิดขวดดื่ม แต่ให้ปฏิบัติต่อไวน์เหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง “ผมคงเป็นผู้ผลิตไวน์เพียงคนเดียวในโลก ที่บอกว่าคุณไม่ควรดื่มไวน์ของตัวเอง” Masoni กล่าว
อะไรที่ทำให้ไวน์ Via Mari 10 พิเศษกว่าไวน์อื่น ๆ
ไวน์ Via Mari 10 ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Sangiovese ถูกเลี้ยงด้วยปุ๋ยธรรมชาติอย่างไข่, กล้วย, สาหร่าย และมูลนกไนติงเกล ที่สำคัญอาหารของพวกมันยังรวมถึงเสียง ที่มาจากละแวกนั้นด้วย เช่น การทะเลาะวิวาท, คำสาปแช่ง, หัวเราะ และภาษาถิ่นต่าง ๆ ที่เพิ่มคุณค่าให้พวกมัน ทำให้ได้เปรียบกว่าองุ่นชนบท ซึ่งได้เพลิดเพลินกับความเงียบสงบเท่านั้น
Masoni ยังกล่าวอีกว่า ไวน์ส่วนใหญ่ของเขามักถูกนำไปแจก หรือสั่งเพิ่มโดยแกลเลอรี Bonioni เพื่อเป็นของขวัญให้กับผู้ซื้อภาพศิลปะชิ้นสำคัญ
อย่างไรก็ตามไวน์ Via Mari 10 ไม่ใช่ว่าจะหาซื้อกันได้ง่าย ๆ เพราะบนเว็บไซต์หลักเหลือไวน์อยู่เพียง 10 ขวด ที่ผลิตในปี 2019 ซึ่งไวน์ในปีก่อนหน้านั้นทั้งหมดล้วนหมดสต็อกไปแล้ว หากใครอยากลองซื้อมาชิมมาลิ้มลองคงต้องเร่งมือกันหน่อยแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก cnn.com
“เกี๊ยวซ่าโซดา” เครื่องดื่มยอดแย่ที่ถูกคนญี่ปุ่นกล่าวถึงมากที่สุด
อากาศเมเดยินบรรจุขวด หรือ “Medellin Air” แห่งโคลอมเบีย สร้างรายได้มากกว่า 100 ดอลลาร์ ต่อวัน
ดราม่า ไอศกรีมไม่ละลาย แม้เผาไฟ กลายเป็นกระแสประเด็นดัง